ชุดยูนิฟอร์มเป็นชุดที่ต้องใส่ทุกวัน ผ่านการซัก รีด บ่อยๆ ฉะนั้นชุดยูนิฟอร์มควรมีคุณสมบัติทั่วไป ดังต่อไปนี้
1. ไม่ยับง่าย เวลาสวมใส่
2. ไม่ขึ้นขน หลังใช้งานเป็นเวลานาน
3. ความคงทนของสี สีต้องไม่ซีดและเปลี่ยนสีหลังการซัก และตากแดดเป็นเวลานาน
4. ไม่หด ทั้งในแง่หดจากการซัก หรือความร้อนจากเตารีด
5. ต้องมีความนุ่มนวล ไม่แข็งกระด้าง
6. มีการทิ้งตัวของผ้า เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม
ข้อดี ข้อเสีย และความแตกต่างของผ้าแต่ละชนิด
ชนิดของเนื้อผ้า โดยทั่วไปเนื้อผ้ามีมากมายหลายแบบ แต่เราขอแนะนำผ้าที่เหมาะสำหรับทำชุดยูนิฟอร์ม ซึ่งมี 3 ชนิดดังนี้
1. ผ้าฝ้าย 100% (COTTON)
– คุณสมบัติทั่วไป : ดูดความชื้นได้ดี, ทนความร้อนที่ 120 ซ. ได้นาน 5 ชม., นำความร้อนดี, ไม่ทนแสง
– ความมัน : ใยฝ้ายโดยทั่วๆ ไปมีความมันน้อย
– ความเหนียว : มีความเหนียวปานกลาง แต่จะเพิ่มความเหนียวเมื่อเปียก
– ความคงรูป : ใยฝ้ายจะคืนตัวได้ต่ำ และยับง่ายมาก
– การติดไฟและทนต่อความร้อน : ฝ้ายติดไฟง่าย และเร็ว
– ปฏิกิริยาต่ากรดและด่าง : ทนต่อด่างแต่ไม่ทนต่อกรด
– แสงแดด : ไม่ควรตากแดดจัดเกินไปจะทำให้ผ้าเหลืองและเสื่อมคุณภาพ
2. ผ้า COTTON ผสม POLYESTER ในท้องตลาดทั่วไป มีการผสมอยู่ 2 แบบคือ
1. T/C มีส่วนผสม POLYESTER 65% และ COTTON 35%
2. CVC มีส่วนผสม COTTON มากกว่า POLYESTER เช่น
– COTTON 55% POLYESTER 45%
– COTTON 70% POLYESTER 30%
– COTTON 80% POLYESTER 20%
ในส่วนของคุณสมบัติ ก็จะขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่ใช้ เช่น T/C 65/35%, เทียบกับ CVC Cotton 55% / Polyester 45% ผ้า T/C ก็จะมีความกระด้างมากกว่าผ้า CVC, การยับ T/C จะยับน้อยกว่า CVC, การดูดความชื้น T/C จะดูดได้น้อยกว่า CVC, ราคา T/C ถูกกว่า CVC เป็นต้น
3. ผ้า POLYESTER
เป็นผ้าใยสังเคราะห์มีคุณสมบัติเด่นคือ ไม่ยับง่าย, อยู่ทรงคงสภาพเดิมได้ดี ทนต่อสารเคมีส่วนใหญ่ ไม่โดนทำลายโดยสภาพอากาศหรือแสงอาทิตย์ ไม่หดตัว ไม่ย้วย แห้งไว ซักง่าย ดูแลง่าย และมีสีสันสดใส
ทำไมต้องใช้ผ้า Polyester
ด้วยคุณสมบัติของผ้า POLYESTER ที่มีคุณสมบัติ ยับยาก, สีสันสดใส, ทนแสงแดดได้ดี, ทนมอด, รา และดูแลรักษาง่าย ซักง่ายและแห้งเร็ว รีดเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่ต้องรีดเลย เหมาะสำหรับชุดที่ต้องใช้งานทุกวัน ซักบ่อยๆ ดังนั้น ถ้าผ้าไม่มีความคงทน อายุในการใช้งานก็จะน้อยลง เกิดการชำรุดของเส้นใย ทำให้ต้องเปลี่ยนหรือตัดชุดใหม่บ่อยๆ
