
โดยเนื้อสัมผัสพิเศษมีลักษณะเด่น ดังนี้
เนื้อด้านนอกมีลายทอ Twill เรียบ
เป็นโครงสร้างการทอที่เส้นด้ายยืน (warp) และเส้นด้ายพุ่ง (weft) ถูกทอให้เกิดลายเฉียงบนผิวผ้า ซึ่งจะเห็นเป็นเส้นทแยงมุมเล็ก ๆ เรียงกัน
เนื้อด้านในมีลายทอ Twill ด้วย Satin KAZE
เป็นโครงสร้างการทอที่เหมือนกับด้านนอกแต่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะมีเนื้อผ้า Satin KAZE มีลักษณะความเงากำลังพอดี ซึ่งซาตินเป็นเนื้อผ้าที่เมื่อสัมผัสผิว จะทำให้ความรู้สึกนุ่มลื่นผิว สวมใส่สบายเป็นพิเศษ
เนื้อผ้ามีน้ำหนักจากการตีเกลียวเส้นด้ายที่สูง (High Twist)
ผ้าที่ใช้เส้นด้าย high twist จะให้ความรู้สึกนุ่ม และมีโครงสร้างที่แน่นและแข็งแรง ช่วยให้เนื้อผ้าคงรูป หรือแยู่ทรงได้ดี
มีสีให้เลือกเยอะ
ผ้าเปเป้เป็นผ้าที่อยู่คู่กับวงการแฟชั่นและยูนิฟอร์ม มาอย่างยาวนาน จึงไม่แปลกที่ผ้าเปเป้จะมีสีให้เลือกมากกว่า 120 เฉดสี ขึ้นไป
โดยผ้าเปเป้ เริ่มแรกมีหน้ากว้าง 44 นิ้ว โดยถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ให้มีหน้ากว้าง 58 นิ้ว เช่น ผ้า Pepe Posh, Pepe Darla เป็นต้น
ผ้าเปเป้นำไปตัดเป็นชุดอะไรได้บ้าง ?
ความนิยมของผ้า Pepe เติบโตอย่างรวดเร็วเพราะความต้องการตลาดในฝั่งชุดยูนิฟอร์มที่กำลังเป็นที่นิยม ไปจนถึงงานออกแบบแฟชั่นเฉพาะตัว ลูกค้าจำนวนมากมองหาผ้าที่ไม่เพียงแต่สวย แต่ยังคงทนต่อการใช้งานจริง ซึ่งผ้า Pepe ตอบโจทย์นี้ได้ครบถ้วน

ชุดยูนิฟอร์มที่ใช้งานได้ทุกวัน แต่ยังคงความอยู่ทรงได้ทั้งวัน
ในโลกของการออกแบบยูนิฟอร์มพนักงาน โดยเฉพาะยูนิฟอร์มพนักงานธนาคารที่ต้องการภาพลักษณ์ที่ดูเรียบร้อย น่าเชื่อถือ และมีความเป็นมืออาชีพ การเลือกเนื้อผ้าที่ใช้ตัดเย็บถือเป็นหัวใจสำคัญ และหนึ่งในผ้าที่ได้รับความนิยมสูงคือ ผ้าเปเป้ (Pepe) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความสวยงามและการใช้งานจริงอย่างแท้จริง
คุณสมบัติของชุดยูนิฟอร์ม คลิก เพื่อดูเพิ่มเติม
ความอยู่ทรงที่ดีเยี่ยม
ผ้าเปเป้มีโครงสร้างการทอที่แน่นละเอียดจากการตีเกลียวเส้นด้ายสูง ทำให้ชุดที่ตัดออกมามีความอยู่ทรง ไม่ย้วย ไม่เสียรูปทรงแม้ใส่ทั้งวัน การใส่ยูนิฟอร์มที่ดูเป็นทรงช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ผู้สวมใส่ดูภูมิฐาน เป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะในธนาคารที่ต้องพบปะลูกค้าอยู่เสมอ
” ผ้าเปเป้ในท้องตลาด ณ ปัจจุบัน มีให้เลือกซื้อมากมาย หลากหลายคุณภาพ แต่สำหรับ QSG Fabric นั้น มีการตีเกียวเส้นด้ายที่สูงเป็นพิเศษ หากมีโอกาสได้ลองเทียบผ้าเปเป้จากทางทีม QSG Fabric กับในท้องตลาดจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ทั้งสัมผัสแรกและหลังการใช้งาน “
รีดง่าย ยับยาก ดูแลรักษาง่าย
ยูนิฟอร์มพนักงานถูกซักและใช้งานเป็นประจำ ผ้าที่รีดง่ายและไม่ยับง่ายอย่างผ้าเปเป้จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะช่วยให้ชุดดูเรียบเนี้ยบอยู่เสมอ โดยไม่ต้องใช้เวลาหรือแรงมากในการดูแล
สีสวย คงทน ไม่ซีดง่าย
สีของยูนิฟอร์ม เช่น สีม่วงเข้ม ถือเป็นภาพจำสำคัญ ผ้าเปเป้ที่ผ่านกระบวนการย้อมสีที่ดีจะให้สีที่สด ชัด และติดทนนาน ไม่ซีดง่ายแม้ผ่านการซักบ่อยครั้ง ทำให้ยูนิฟอร์มดูใหม่อยู่เสมอ
ดีไซน์ได้หลากหลาย ตอบโจทย์แฟชั่น
นอกจากคุณสมบัติทางเทคนิค ผ้าเปเป้ยังเหมาะกับการตัดเย็บในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเสื้อเชิ้ต กระโปรง หรือชุดสูท สามารถออกแบบให้ทันสมัยได้ ไม่จำเจหรือเชย ทำให้ชุดยูนิฟอร์มกลายเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นในที่ทำงาน
ความทนทาน คุ้มค่าในระยะยาว
สุดท้ายคือความคุ้มค่า การลงทุนในยูนิฟอร์มที่ใช้ผ้าที่ทนทาน ดูแลรักษาง่าย และใช้งานได้ยาวนานอย่างผ้าเปเป้ ช่วยลดต้นทุนในการซ่อมหรือเปลี่ยนชุดใหม่ในระยะยาว เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทั้งสำหรับองค์กรและพนักงาน

ชุดเบลเซอร์ (Blazer) แฟชั่นแบบกึ่งทางการ
หากพูดถึงเสื้อเบลเซอร์ (Blazer) ภาพที่ลอยมาในหัวคือเสื้อสูททรงสวย เนี้ยบหรู ที่ช่วยเสริมลุคให้ดูเท่ ดูภูมิฐาน ทั้งสำหรับใสไปทำงาน หรือใส่แฟชั่นแบบกึ่งทางการ ซึ่งเบลเซอร์ที่ดีไม่ใช่แค่การตัดเย็บหรือดีไซน์เท่านั้น แต่ “เนื้อผ้า” คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้องค์ประกอบดังกล่าวนั้นสมบูรณ์แบบ
และผ้า “ผ้าเปเป้ (Pepe)” ตอบโจทย์ทุกการทำชุดเบลเซอร์อย่างไร้ที่ติ
ตัดเย็บได้หลากหลาย ดีไซน์ได้ตามใจ
ผ้าเปเป้สามารถนำไปตัดเย็บได้ทั้งเบลเซอร์ชายหญิง ทั้งแบบคลาสสิก เน้นแบบเรียบหรูโชว์เนื้อผ้า หรือจะเป็นเบลเซอร์แฟชั่นที่เล่นทรง เล่นดีไซน์ เล่นดีเทลต่าง ๆ เช่น ปกบาน พองแขน หรือมีตะเข็บพิเศษ ทำให้ดีไซเนอร์และช่างตัดเสื้อสนุกไปกับการเลือกใช้ผ้าเปเป้เป็นตัวเลือกหลักเวลาออกแบบเสื้อสูทที่เน้นความหรูแต่ใช้งานได้จริง
โครงสร้างแน่น เนื้อผ้าอยู่ทรง ไม่ย้วย ไม่ยับ
เบลเซอร์ต้องการผ้าที่มีโครงสร้างดีเพราะเสื้อทรงนี้ไม่ได้แค่ “ใส่” แต่ยังต้อง “เสริมบุคลิก” ผ้าเปเป้เป็นผ้าที่ทอแน่น มีน้ำหนักพอดี ทำให้ตัดเย็บออกมาแล้วเสื้อจะอยู่ทรง ไม่ย้วย ไม่เสียรูปทรงง่าย แถมยังยับยากมาก เหมาะกับคนที่ต้องใส่ไปประชุม ใส่ไปทำงาน หรือเดินทางทั้งวันแต่ยังอยากให้ลุคเป๊ะปังอยู่

กางเกงทรงขากว้าง (Wide-Leg Pants) กำลังฮิตในหมู่สาวออฟฟิศ
หนึ่งในผ้าที่ถูกพูดถึงและเลือกใช้มากสำหรับกางเกงทำงานสไตล์นี้ ก็คือ ผ้าเปเป้ (Pepe) เพราะเป็นผ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อความเนี้ยบ ความทนทาน และความหรูหราที่ตอบโจทย์สาวทำงานยุคนี้แบบครบวงจร
ผิวสัมผัสด้านในนุ่มสบาย ด้วย Satin Kaze
อีกหนึ่งความลับที่ทำให้การใส่กางเกงเปเป้รู้สึกดี คือการซับในด้วย Satin Kaze ซึ่งเป็นผ้าซับในที่มีผิวสัมผัสเรียบลื่น นุ่มสบาย ไม่ระคายเคืองผิว ช่วยให้ใส่ได้นานโดยไม่อึดอัด ระบายอากาศดี แม้จะต้องเคลื่อนไหวทั้งวันในอากาศเมืองร้อนแบบไทย
เมื่อเลือกตัดกางเกงขากว้างด้วยผ้าเปเป้ คุณจะได้เนื้อผ้าที่ อยู่ทรงสวย ไปพร้อมกับการสวมใส่ที่สบาย อีกทั้งยังได้ลุคที่เรียบหรู ทันสมัย เหมาะสำหรับใส่ไปทำงาน ประชุม หรือแม้แต่แมทช์กับเบลเซอร์สำหรับวันสำคัญซึ่งอาจจะเป็นทุกๆวันสำหรับคุณ

ตัวอย่างข้างต้นนี้ เป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวของวงการแฟชั่น โลกของผ้าเปเป้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ยูนิฟอร์มหรือชุดสาวออฟฟิศเท่านั้น แต่ยังแทรกซึมไปในงานแฟชั่นโชว์ งานออกแบบเสื้อผ้าระดับพรีเมียม และแม้แต่การตัดเย็บเสื้อผ้าสั่งทำพิเศษ (Made-to-Order) อีกนับไม่ถ้วน เพราะความคลาสสิกของผ้าชนิดนี้อยู่ที่การ เป็นผ้าพื้นฐานที่หยิบไปต่อยอดได้ไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งในแง่ดีไซน์ ฟังก์ชัน และสไตล์